For English version, click here.
“อโกด้าเล็งเห็นถึงความสำคัญของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่จะมีต่อการท่องเที่ยวในประเทศไทย และเชื่อว่าเรามีศักยภาพที่จะช่วยในโครงการนี้ได้อีกแรง เราจึงไปเสนอตัวต่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการกับทางธนาคารกรุงไทย” พัชรมัย ตติยวัฒนชัย Senior Product Owner ของอโกด้า ผู้เป็นเจ้าของโปรเจกต์นี้เล่าให้เราฟังถึงที่มาของการร่วมมือระหว่างอโกด้าและโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากภาครัฐในครั้งนี้
“เราเที่ยวด้วยกัน” เป็นโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งส่งเสริมให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในต่างจังหวัด ระหว่างเดือนกรกฎาคม – เดือนตุลาคม 2563 เพื่อช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ด้วยการสนับสนุนผู้ประกอบการโรงแรมไทย และธุรกิจการท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยอโกด้าได้ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีและเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยทำให้ขั้นตอนของทั้งโรงแรมและเดินทางง่ายขึ้น
พัชรมัย ตติยวัฒนชัย
ด้วยทรัพยากรทางเทคโนโลยีและทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ทำให้อโกด้าสามารถสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการจองที่พักในโครงการในเวลาไม่ถึงสามสัปดาห์ นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ และเปิดให้ใช้งานได้ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นวันแรกที่ทางโครงการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าจองที่พัก
“เราใช้ทีมงานอโกด้ากว่าร้อยคนจากหลากหลายแผนกมาร่วมกันทำ เพราะเรามีเวลาน้อยมาก สำหรับโครงการนี้อโกด้าไม่ได้เก็บค่าคอมมิชชันจากการจอง แต่เราลงทุนกับมันเพราะอยากช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยว และสนับสนุนโรงแรมต่าง ๆ รวมถึงชุมชนรอบข้างด้วย” พัชรมัยกล่าว
Agoda Careers คุยกับทีมงานสายเลือดไทยสี่คนจากแต่ละส่วนของโปรเจกต์นี้ เพื่อทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งขึ้นว่าเรากำลังช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างไรบ้าง
สุทธิศาสตร์ ติยวุฒิโรจนกุล
โดยการช่วยเหลือโรงแรมต่าง ๆ ในการเข้าร่วมโครงการนี้
จะเรียกว่าอโกด้าอยู่ข้าง ๆ โรงแรมในทุกขั้นตอนของโครงการเราเที่ยวด้วยกันก็ไม่ผิด ตั้งแต่การสมัครเข้าร่วมโครงการ รับจองที่พัก ไปจนถึงการตอบคำถาม และบริการลูกค้าหลังการจอง “เราติดต่อเข้าไปที่โรงแรมทุกแห่งในอโกด้า แล้วเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับโครงการนี้ เพราะเราไม่อยากให้เขาพลาดโอกาสดี ๆ ในการเข้าร่วม” สุทธิศาสตร์ ติยวุฒิโรจนกุล Senior Market Manager เล่าถึงขั้นตอนแรก ๆ ที่ทีม Partner Services ของอโกด้า ซึ่งรับหน้าที่ติดต่อประสานงานกับโรงแรมได้เริ่มทำ “เราแนะนำขั้นตอนการสมัครเข้าร่วมโครงการ และเล่าให้โรงแรมฟังว่าการจองจากฝั่งลูกค้าจะมีหน้าตาแบบไหน นอกเหนือจากนั้นเราก็ยังจัดสัมมนาออนไลน์ ให้โรงแรมในอโกด้าทุกโรงแรมสามารถมาร่วมฟังการอธิบายกระบวนการอย่างละเอียด และถามคำถามเราได้”
โรงแรมที่ไม่ได้มีซอฟต์แวร์ระบบการจองห้องเป็นของตัวเอง หรือไม่ได้มีพนักงานมากพอที่จะรองรับลูกค้าจำนวนมากที่จะหลั่งไหลเข้ามาทางโครงการนี้ จะได้ประโยชน์อย่างมากจากการใช้แพลตฟอร์มของอโกด้าที่คนส่วนใหญ่รู้จักและคุ้นเคยอยู่แล้ว “ระบบที่เรามีอยู่แล้วหลังบ้าน ทำให้กระบวนการจ่ายเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งสำหรับทั้งผู้จองและโรงแรม นอกจากนั้น เราก็ยังมีทีมสนับสนุนลูกค้าที่ให้บริการตลอด 24 ชม. รวมถึงทีมสนับสนุนโรงแรมที่ทำงานบูรณาการกัน ทำให้โรงแรมหลายแห่งก็เลือกที่จะเปิดให้จองผ่านทางอโกด้าอย่างเดียว สำหรับโครงการนี้” สุทธิศาสตร์กล่าวเสริม
ภัทรรัฐ กองเกียรติวานิช
โดยการใช้เทคโนโลยีช่วยให้การจองของลูกค้าง่ายขึ้น
โรงแรมมีเวลาเตรียมตัวสำหรับโครงการนี้ค่อนข้างสั้น ทำให้อาจเตรียมระบบการจองและแพลตฟอร์มของตัวเองไม่ทันสำหรับการเปิดให้จอง ตรงนี้เองที่อโกด้านำจุดแข็งด้านเทคโนโลยีของเราเข้ามาช่วย “ด้วยเวลาที่กระชั้นมาก เราเลยตัดสินใจจะทำระบบให้จองเฉพาะในมือถืออย่างเดียว” ภัทรรัฐ กองเกียรติวานิช Development Manager อธิบาย “สำหรับฟรอนต์เอนด์ เราสร้างหน้าแยกออกมาสำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ เหตุผลที่เราทำได้เร็วเป็นเพราะมีทีมจากแผนกเทคโนโลยีมาร่วม 40 กว่าคน ทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านของตัวเองทั้งหมด เราเริ่มเขียนโค้ดกันตั้งแต่วันแรกที่โครงการอนุมัติ เพราะมีสิ่งที่ต้องทำหลายอย่าง ตั้งแต่การเชื่อมต่อกับ API ของทางธนาคารกรุงไทยเพื่อเช็คโควต้า ไปจนถึงการสร้างระบบการจองเฉพาะของโครงการนี้ เพื่อให้ประสบการณ์การจองเป็นไปอย่างลื่นไหลที่สุด เรามองไปถึงจุดที่เราเปิดระบบ จำได้ว่าโครงการก่อนหน้านี้ของรัฐบาลมีคนสนใจจำนวนมาก พอวันเปิดให้จองวันแรก เราก็เลยขยายเซิร์ฟเวอร์ให้มันรองรับให้มากขึ้น คนจะได้เข้าไปจองกันได้”
“การจองในแอปฯ อโกด้ามีข้อดีคือลูกค้าสามารถดูได้เลยว่าโรงแรมไหนเข้าร่วมบ้าง เห็นภาพประกอบ อ่านรีวิว และเปรียบเทียบได้เลยในหน้าเดียว” พัชรมัยกล่าวต่อ “แล้วยังสามารถจ่ายเงินผ่านแอปฯ ด้วยช่องทางการจ่ายเงินกว่า 20 ช่องทางที่เรารองรับ เป็น one-stop service สำหรับการจองโรงแรมเลย เราช่วยให้นักเดินทางได้ใช้เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรไว้ให้ ในการจองการเดินทางบนแพลตฟอร์มที่ดีที่สุด อย่างไหลลื่นที่สุด”
นอกจากจะทำให้การจองเป็นเรื่องง่ายขึ้นแล้ว อโกด้ายังช่วยดูแลลูกค้าหลังการจองอีกด้วย จารุชัฏ ศิริโชคชัชวาล Senior Project Manager จากแผนก Customer Experience Group เสริมว่า “ในฝั่งทีมดูแลลูกค้า เราเตรียมการทั้งสำหรับฝั่งลูกค้าและพนักงานของเรา ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย ขั้นตอน และระบบต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และทีมงานของเราจะสามารถจัดการเคสของลูกค้าในโครงการนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
จารุชัฏ ศิริโชคชัชวาล
โดยการส่งเสริมการใช้งานของโครงการให้สะดวกขึ้น
ในธุรกิจท่องเที่ยว ที่มีฝ่ายผู้ให้บริการ (ที่พัก) และฝ่ายผู้รับบริการ (ลูกค้า) เป็นสองหัวใจหลัก แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างอโกด้าเข้ามาเป็นตัวกลางในการอำนวยความสะดวกทั้งสองฝั่ง “เราทำให้ลูกค้าสามารถจองโรงแรมได้ง่ายขึ้น เพราะเขาเห็นราคาดี ๆ จากรายชื่อที่พักที่จะใช้สิทธิ์ได้ในหน้าเดียว ส่วนทางด้านที่พัก การนำระบบอัตโนมัติต่าง ๆ เข้ามาใช้ก็ช่วยให้โรงแรม โดยเฉพาะโรงแรมเล็ก ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศไทยสามารถจัดการการจองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราหวังว่าอโกด้าจะมีส่วนช่วยเพิ่มจำนวนการใช้สิทธิ์ในโครงการนี้” พัชรมัยกล่าว
สุทธิศาสตร์เสริมว่า “หลาย ๆ โรงแรมมีจำนวนการจองที่พักเพิ่มขึ้นสามถึงสี่เท่า โครงการนี้ช่วยให้โรงแรมสามารถกลับมาตั้งหลัก หลังจากถูกพิษโควิดเล่นงาน ทั้งชุมชนรอบ ๆ ก็ยังได้กลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวและมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะนักเดินทางยังจะได้เวาเชอร์มาใช้ในระหว่างเดินทางได้ด้วย พวกเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศไทย”
โครงการเราเที่ยวด้วยกันยังมีไปจนถึง 31 ตุลาคม 2563 มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวกับเรา สมัครงานกับอโกด้าได้ที่นี่